KOREA 2014
เที่ยวเกาหลี 14-18 มกราคม 2014
ตัดสินใจ ลังเลอยู่นานไปหรือไม่ไป สรุปก็ไป ลองสักครังนึง สำหรับอากาศหนาวแบบติดลบ เลยต้องเตรียมอุปกรณ์แบบ Full Option กันหน่อย ทั้งชุดฮีทเทค เสื้อกันหนาวขนเป็ด รองเท้ากันน้ำลุยหิมะ ถุงเท้ากันความเย็น ถุงมือฮีทเทค หมวกฮีทเทค ผ้าพันคอฮีทเทค ฮีทเทคทั้งนั้นจากยูนิโครซื้อตอนช่วงลดราคา พร้อมที่ครอบหูห้าสิบบาท ขนไปเต็มที่
ทริปนี้ผู้ร่วมทริปหน้าเดิม เพื่อนสนิททั้งสาม บิท อ้อ เป็ด โดยมี เป็ดเป็นคนจัดการเรื่องทัวร์ นางต้องการลุยหิมะ ว่าไงก็ว่ากัน ถึงขั้นนี้แล้ว
สถิติอุณหภูมิต่ำสุดที่โซลประมาณ -5 องศา ชุดพร้อม คนพร้อม ลุยเลย
14 มกราคม
ออกเดินทางจากเชียงใหม่ เที่ยวบิน TG113 เวลา 16.10 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 17.40 น. เพื่อนโทรมาบอกว่าเครื่องไปเกาหลี Delay จากเวลา 00.10 เป็น 04.00 Delay ตั้งสี่ชั่วโมง ระหว่างรอเพื่อนมาถึงสามทุ่มมีเวลาเยอะ เลยเอากระเป๋าไปฝาก ณ จุดฝาก ราคา 100 บาทต่อใบต่อวัน จากนั้นขึ้น Airport Rail link ไปพารากอนหาอะไรทาน ได้เวลา ก็กลับมาที่สนามบิน แวะที่เคาท์เตอร์ AIS ให้เขาจัดการ Roaming Data 4 วัน ตั้งค่าเครื่องให้เสร็จสรรพ
เจอเพื่อนๆ แล้วเวลา 21.30 น. แวะทานอาหาร จากนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลา เห็นกรุปทัวร์อื่นเขาเช็คโหลดกระเป๋าแล้ว เราเลยโทรไปบอกทัวร์ของเราว่าเราจะเข้าไปข้างในก่อนเพื่อไม่ให้เสียเวลาช้อปปิ้งของเรา หลังจากดูของก็มีเวลามีสามชั่วโมง เลยไปนั่งสวยๆ (หลับ) รอขึ้นเครื่องที่ King Power Lounge ได้เวลาขึ้นเครื่องไปกับสายการบินบิสซิเนสแอร์ 8B 868 ที่ Gate C5 เจอกับไกด์คุณเอ ซึ่งเขาเขียนใบ ตม.เกาหลีมาให้เราเสร็จสรรพเพียงแต่เราใส่อาชีพ และเซนต์ชื่อเท่านั้น และใบสำแดงสิ่งของซึ่งสามารถใช้หลายคนได้ ครอบครัวละใบได้เลยไม่ต้องใช้ทุกคน ซึ่งบนเครื่องเขาก็จะแจกให้อีกทีสำหรับคนที่ยังไม่มี
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 04.00 น. ถึงสนามบินอินชอนเวลา 11.30 น. ของวันที่ 15 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง (เวลาที่โซลต่างกับไทย +2) ระหว่างบินมีอาการศแปรปรวนเป็นระยะ กับระยะทาง 2280 ไมล์
สายการบิน Bissiness Air ใช้เครื่องโบอิ้ง 767-300ER เครื่องเก่าไปสักนิด ภายในพอรับได้ มีที่ปรับแอร์ด้านบน ถึงเก้าอี้จะเก่า เบาะที่นั่ง 15H ริมทางเดิน คนตัวสูง 180 อย่างเราพอนั่งได้ แต่ต้องเอาขาออกมาด้านทางเดินด้วย จะได้ไม่เมื่อย บริการน้ำดื่มเป็นระยะ มีแจกอาหารด้วย เห็นมีของที่ระลึกของสายการบิน ทั้งหมวก ตุ๊กตา โมเดลเครื่องบิน
15 มกราคม
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 04.00 น. ถึงสนามบินอินชอนเวลา 11.30 น. ของวันที่ 15 ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง (เวลาที่โซลต่างกับไทย +2) ระหว่างบินมีอาการศแปรปรวนเป็นระยะ กับระยะทาง 2280 ไมล์
สายการบิน Bissiness Air ใช้เครื่องโบอิ้ง 767-300ER เครื่องเก่าไปสักนิด ภายในพอรับได้ มีที่ปรับแอร์ด้านบน ถึงเก้าอี้จะเก่า เบาะที่นั่ง 15H ริมทางเดิน คนตัวสูง 180 อย่างเราพอนั่งได้ แต่ต้องเอาขาออกมาด้านทางเดินด้วย จะได้ไม่เมื่อย บริการน้ำดื่มเป็นระยะ มีแจกอาหารด้วย เห็นมีของที่ระลึกของสายการบิน ทั้งหมวก ตุ๊กตา โมเดลเครื่องบิน
15 มกราคม
เวลา 11.00 น. ถึง Incheon International Airport (ICN) เปลี่ยนชุดพร้อมเที่ยว ใส่เสื้อด้านในฮีทเทค แต่เราลืมใส่กางเกงฮีทเทค มีแต่กางเกงยีนส์ชั้นเดียวแรกๆ เอาอยู่แต่หลังๆ นี่สิ จากนั้นเดินออกมาขึ้นรถไฟฟ้าไปอีกอาคารแล้วไปต่อคิวผ่าน ตม.เกาหลี ซึ่งก็ผ่านง่ายดายสแกนนิ้วทั้งสองนิ้วมองกล้องจบ เห็นบางคนโดนเรียกไปอีกห้องนึง สงสัยจะโดนไปสัมภาษณ์ซะแล้ว ไม่รู้จะผ่านหรือจะโดนส่งกลับ แต่ทัวร์เราผ่านครบทุกคนและไม่มีใครโดดร่ม คณะทัวร์เรา 8B Double Knock Sale
ออกมาเจอไกด์อีกท่านนึงชื่อคุณเบญนี่ เป็นคนไทยแต่งงานกับคนเกาหลี นางน่ารักมากภาษาเกาหลีนางคล่องมาก
แอบเห็นร้าน G2S เลยรีบวิ่งไปซื้อบัตร T-Money ราคา 2500 วอน เติมเงินเข้าไปอีก 5000 วอน แตะซื้อของปรื้ดๆๆๆๆ เราสามารถตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยการใช้ App Android ชื่อ T-money Balance โดยลงบนโทรศัพท์ที่มี nfc แล้วมาแตะที่ card นี้ได้เลย
ได้เวลาขึ้นรถบัสแล้ว ที่นี่เป็นรถพวงมาลัยซ้ายต่างจากประเทศเรา เวลาข้ามถนน ต้องมองทางซ้ายก่อน ช่วงเช้านี้เราต้องเปลี่ยนแผนการเที่ยว เพราะเสียเวลาในการเดินทางแล้ว ข้ามสะพานที่ยาวที่สุดของเกาหลีประมาณ 27 กม.
ที่แรกที่เราไป สวนสตรอเบอรี่ ตอนแรกนึกว่าจะอยู่กลางเขา แต่นี่อยู่ในเมืองนี่แหละ เป็นฟาร์มโรงเรือน ขอบอกว่าอากาศเย็นๆ แบบนี้ เจอสรอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ แบบนี้ อร่อยมา เขาเตรียมให้เราทานประมาณหกลูกใหญ่ๆ และเดินเข้าไปดูสวนของเขาในโรงเรือน ห้ามเด็ดกินในนี้แล้วทิ้งนะ ไม่งั้น ในแปลงที่ปลูกอาจมีเชื้อราขึ้นได้ ให้ออกมาทานข้างนอกที่เขาจัดไว้ พร้อมน้ำชาหอมกรุ่น ด้านนอกมีขายเราเลยซื้อไว้กินระหว่างทาง 2 กล่อง ถ้าจะเอากลับไทย ก็สั่งไว้เค้าจะแพคกล่องมาให้ส่งที่สนามบิน
ทานอาหารกลางวันแล้ว เมนูหมูหมึกโอซัม
จากนั้นไปต่อที่ Korea Traditional Culture Center ได้ดูการทำกิมจิ และทำกันเองด้วย ซึ่งเขาใช้ผักกาดขาว มาทาเครื่องปรุงที่เตรียมไว้แล้วทาทุกใบทีละใบ ทำเสร็จแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดฮนบกถ่ายรูปกัน
ได้เวลาไปต่อที่สวนสนุก Ever Land เรามาถึงก็ประมาณบ่ายสี่โมงแล้ว มีเวลาเล่นแค่สองชั่วโมงเอง นั่งกระเช้าลงไปด้านล่างไปเล่น Snow board เข้าชม Safari world มีเวลาน้อยๆ เริ่มค่ำอากาศเริ่มเย็น ไม่ได้ใส่กางเกงขายาวชั้นใน Heat Tech อีก หนาวขามากมาย เดินไปก็รีบหาไออุ่นจากโคมฮีทเตอร์ทั้งหลาย แทบแย่เลย หนาวจนขาชาไปหมด
ช่วงค่ำมาทานอาหาร เมนู BBQ ปิ้งย่างบุฟเฟต์
อิ่มแล้วเดินทางต่ออีกประมาณเกือบสองชั่วโมงไปยังโรงแรมที่พัก Siheung Hotal ที่ จังหวัดเคียงกี ห้องพักอยู่ชั้นสอง ที่นี่ อุปกรณ์ครบครัน ห้องใหญ่ใช้ได้เลย มีฮีทเตอร์อุ่นสบาย ในโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ ด้านข้างโรงแรม มี 7-11 แวะซื้อของในร้านดูที่มันจัดโปรโมชั่น 2+1 มีนมกล้วยที่ว่าขึ้นชื่อก็ลองทาน อร่อยดีเหมือนกัน มีกาแฟสตาร์บัคให้ลิ้มลอง เวลาจ่ายก็ใช้บัตร T-Money แตะสวยๆ ไปเลยสะดวกมาก
คืนนี้พักผ่อนพรุ่งนี้ทัวร์นัดแปดโมงล้อหมุน
16 มกราคม
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก อาหารมีหลายอย่างใช้ได้เลย แต่ไส้กรอกไม่ค่อยถูกปากเท่าไร มีไข่ต้มแบบเดียว
ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวที่สกีรีสอร์ท วันนี้โชคดีได้เจอหิมะตกให้เห็น ถ้าจะเช่าอุปกรณ์สกีได้ แต่เห็นว่าเวลามีน้อยแล้วไม่คุ้มรอขอยืมมาประกอบการถ่ายรูปดีกว่า ว่าแล้วพวกเราก็ลุยลงลานสกีไปถ่ายรูปกันทุกท่าทุกมุม ก่อนออกจากที่นนี่แวะทานมันปิ้งอร่อยมากๆ
เดินทางไปทานอาหารเที่ยง เมนูหมูบูลโกกิ
เดินทางต่อมาที่ Hwacheon ดูเทศกลางน้ำแข็ง ที่มีเป็นรูปปั้นแกะสลัก ด้านในหนาวมาก
เดินทางต่อไปยังเกาะนามิ นั่งเรือข้ามไป มีหิมะโปรยปราย ถ่ายรูปตามรอยหนัง winter of song ซีรีย์เกาหลีอันโด่งดัง (แต่เราไม่เคยดู) คนไทยเยอะมาก แต่บางคนกลับทำนิสัยให้เสียชื่อประเทศ ทุกคนทั้งไทยทั้งเกาหลี นักท่องเที่ยวชาติอื่นมายืนรอคิวถ่ายรูป แต่คนไทยบางคนกลับแซงคิว กลัวไม่ได้ถ่าย เพราะ กรุปทัวร์ให้เวลาน้อย เลยยอมเสียมารยาทให้ต่างชาติเขาเห็น นี่ถ้าคุณไม่มีเวลาก็ไม่ต้องถ่าย
ต่อด้วยเดินทางไปตกปลาน้ำแข็ง ตกไม่ได้สักตัว เพราะไม่ตั้งใจตก แอ๊คถ่ายรูปอย่างเดียว ในกลุ่มเราก็ไม่มีใครตกได้สักคน ทำบาปไม่ขึ้น แต่ถึงเวลาก็มีปลามาให้เราทาน คือปลาที่ตกกันได้นั่นแหละ ปิ้งมาแล้วมาให้เราปิ้งอุ่นๆ ในเตาอีกที แต่ขอบอกว่ารสชาดอร่อยมาก
เดินทางไปทานอาหารค่ำ เมนูอันดงจิมทัค
จากนั้นเดินทางกลับมายังที่พัก คืนนี้เรานอนที่เดิม
17 มกราคม
ทานเอาหารเช้าที่โรงแรม แปดโมงเช้าได้เวลานัด วันนี้เป็นการพาไปช้อปปิ้งกัน ไปกันเลย
ที่แรก ศูนย์โสมรัฐบาล ไปดูโสมต่างๆ ใครจะซื้อก็ซื้อ แต่เราไม่ได้ซื้อ
ที่ต่อมา ฮ๊อกเก็ตนามู สมุนไพรของเกาหลี รักษาตับ เลยได้มาสองกล่อง เจ็ดพันกว่าบาทแนะ เห็นว่าต้นไม้ชนิดนี้ 20 ปี ถึงออกผล
อาหารเที่ยง เมนูเมนูไก่มัคคาลบี้
ไปช้อปปิ้งต่อที่ย่านแฟชั่นสุดฮิปเมียงดอง
ตามด้วย Cosmetic Shop ที่นี่เลยได้ครีมหอยทากของ Dr MJ กะ ครีมน้ำแตก มา
ช้อปประเป๋าเบาแล้ว ก็ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์สามมิติและพิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง (เล็กกว่าที่เราไปเมื่อวาน)
เดินทางต่อหอคอย N Tower ภูเขานัมซาน Love Rock Cable แต่ไม่ได้ขึ้นตัวหอคอยเพราะอากาศด้านนอกมองวิวไม่ชัด เลยได้แต่ถ่ายรูปตรงที่เขาคล้องกุญแจกัน
ทานอาหารเย็นอันดองจิมทัค หรือไก้พะโล้
ชมโชว์ Fanta Stick Snow พระเอกหล่อ นางเอกน่ารัก เรื่องประมาณ ความรักคนกะผี ประมาณชั่วโมงครึ่ง
วันนี้ย้ายมาพักที่โซล ที่พักของเรา CO.OP City Hotel ห้องขนาดเล็กกว่าสองวันแรก แต่สวยใช้ได้
18 มกราคม
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก มีอาหารน้อยมาก ห้องเล็กรีบกินรีบไป ให้คนอื่นมานั่งบ้าง ไข่ออมเลตมีให้ตักเป็นกาละมัง แต่ดูเละๆ อิ่มแล้วรีบขนข้าวของขึ้นรถพร้อมกลับ แวะดิวตี้ฟรี Korea Shopping Center
แวะเที่ยวหมู่บ้านพื้นเมืองพูซอฮันนก เป็นหมู่บ้านโบราณที่อนุรักษ์เอาไว้ และย่านสามฟ้า และสักการะพระ
ทานอาหารเที่ยง เมนูซังเกทังหรือไก่ตุ๋นโสม
ตามด้วยละลายเงินวอน แต่ไม่มีให้จ่ายแล้ว หมด ที่นี่ ใช้เงินไทยได้ แต่เรดแพงมาก จาก 0.031 เป็น 0.028
ได้เวลาไปสนามบินแล้ว มีแจกขนมเล็กน้อย พร้อมกับซื้อรูปภาพที่น้องเค้าถ่ายไว้ ตกรูปละ 150 บาท ถือว่าเป็นน้ำใจให้น้อง อันนี้ไม่บังคับซื้อ ใครชอบรูปไหนก็ซื้อไป
บ่ายสองมาถึงสนามบินอินชอน คนเยอะมาก ไม่มีเวลาซื้อของด้านในเลย ใครที่ฝากซื้อสตรอเบอรี่ เค้าก็เอามาให้ที่สนามบินพร้อมห้อผ้าสวยงาม
ออกเดินทางจากเกาหลีใต้ ด้วยเครื่องบิน Boeing 767-341(ER) เที่ยวบิน 8B 867 ที่นั่ง 26B ช่วงท้าย ที่นั่งแคบมากนั่งไม่สบายเลย ต้องขอย้ายไปนั่งด้านหลังแทน สังเกตุว่า เก้าอี้ไม่เหมือนกันกับตอนขามา ออกเดินทางจากสนามบินอินชอนเวลา 16.00 กลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 21.00 โดยสวัสดิภาพ
ออกมาเจอไกด์อีกท่านนึงชื่อคุณเบญนี่ เป็นคนไทยแต่งงานกับคนเกาหลี นางน่ารักมากภาษาเกาหลีนางคล่องมาก
แอบเห็นร้าน G2S เลยรีบวิ่งไปซื้อบัตร T-Money ราคา 2500 วอน เติมเงินเข้าไปอีก 5000 วอน แตะซื้อของปรื้ดๆๆๆๆ เราสามารถตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยการใช้ App Android ชื่อ T-money Balance โดยลงบนโทรศัพท์ที่มี nfc แล้วมาแตะที่ card นี้ได้เลย
ได้เวลาขึ้นรถบัสแล้ว ที่นี่เป็นรถพวงมาลัยซ้ายต่างจากประเทศเรา เวลาข้ามถนน ต้องมองทางซ้ายก่อน ช่วงเช้านี้เราต้องเปลี่ยนแผนการเที่ยว เพราะเสียเวลาในการเดินทางแล้ว ข้ามสะพานที่ยาวที่สุดของเกาหลีประมาณ 27 กม.
ที่แรกที่เราไป สวนสตรอเบอรี่ ตอนแรกนึกว่าจะอยู่กลางเขา แต่นี่อยู่ในเมืองนี่แหละ เป็นฟาร์มโรงเรือน ขอบอกว่าอากาศเย็นๆ แบบนี้ เจอสรอเบอรี่ลูกใหญ่ๆ แบบนี้ อร่อยมา เขาเตรียมให้เราทานประมาณหกลูกใหญ่ๆ และเดินเข้าไปดูสวนของเขาในโรงเรือน ห้ามเด็ดกินในนี้แล้วทิ้งนะ ไม่งั้น ในแปลงที่ปลูกอาจมีเชื้อราขึ้นได้ ให้ออกมาทานข้างนอกที่เขาจัดไว้ พร้อมน้ำชาหอมกรุ่น ด้านนอกมีขายเราเลยซื้อไว้กินระหว่างทาง 2 กล่อง ถ้าจะเอากลับไทย ก็สั่งไว้เค้าจะแพคกล่องมาให้ส่งที่สนามบิน
ทานอาหารกลางวันแล้ว เมนูหมูหมึกโอซัม
จากนั้นไปต่อที่ Korea Traditional Culture Center ได้ดูการทำกิมจิ และทำกันเองด้วย ซึ่งเขาใช้ผักกาดขาว มาทาเครื่องปรุงที่เตรียมไว้แล้วทาทุกใบทีละใบ ทำเสร็จแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดฮนบกถ่ายรูปกัน
อิ่มแล้วเดินทางต่ออีกประมาณเกือบสองชั่วโมงไปยังโรงแรมที่พัก Siheung Hotal ที่ จังหวัดเคียงกี ห้องพักอยู่ชั้นสอง ที่นี่ อุปกรณ์ครบครัน ห้องใหญ่ใช้ได้เลย มีฮีทเตอร์อุ่นสบาย ในโรงแรมมีร้านสะดวกซื้อ ด้านข้างโรงแรม มี 7-11 แวะซื้อของในร้านดูที่มันจัดโปรโมชั่น 2+1 มีนมกล้วยที่ว่าขึ้นชื่อก็ลองทาน อร่อยดีเหมือนกัน มีกาแฟสตาร์บัคให้ลิ้มลอง เวลาจ่ายก็ใช้บัตร T-Money แตะสวยๆ ไปเลยสะดวกมาก
คืนนี้พักผ่อนพรุ่งนี้ทัวร์นัดแปดโมงล้อหมุน
16 มกราคม
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก อาหารมีหลายอย่างใช้ได้เลย แต่ไส้กรอกไม่ค่อยถูกปากเท่าไร มีไข่ต้มแบบเดียว
ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวที่สกีรีสอร์ท วันนี้โชคดีได้เจอหิมะตกให้เห็น ถ้าจะเช่าอุปกรณ์สกีได้ แต่เห็นว่าเวลามีน้อยแล้วไม่คุ้มรอขอยืมมาประกอบการถ่ายรูปดีกว่า ว่าแล้วพวกเราก็ลุยลงลานสกีไปถ่ายรูปกันทุกท่าทุกมุม ก่อนออกจากที่นนี่แวะทานมันปิ้งอร่อยมากๆ
เดินทางไปทานอาหารเที่ยง เมนูหมูบูลโกกิ
เดินทางต่อไปยังเกาะนามิ นั่งเรือข้ามไป มีหิมะโปรยปราย ถ่ายรูปตามรอยหนัง winter of song ซีรีย์เกาหลีอันโด่งดัง (แต่เราไม่เคยดู) คนไทยเยอะมาก แต่บางคนกลับทำนิสัยให้เสียชื่อประเทศ ทุกคนทั้งไทยทั้งเกาหลี นักท่องเที่ยวชาติอื่นมายืนรอคิวถ่ายรูป แต่คนไทยบางคนกลับแซงคิว กลัวไม่ได้ถ่าย เพราะ กรุปทัวร์ให้เวลาน้อย เลยยอมเสียมารยาทให้ต่างชาติเขาเห็น นี่ถ้าคุณไม่มีเวลาก็ไม่ต้องถ่าย
ต่อด้วยเดินทางไปตกปลาน้ำแข็ง ตกไม่ได้สักตัว เพราะไม่ตั้งใจตก แอ๊คถ่ายรูปอย่างเดียว ในกลุ่มเราก็ไม่มีใครตกได้สักคน ทำบาปไม่ขึ้น แต่ถึงเวลาก็มีปลามาให้เราทาน คือปลาที่ตกกันได้นั่นแหละ ปิ้งมาแล้วมาให้เราปิ้งอุ่นๆ ในเตาอีกที แต่ขอบอกว่ารสชาดอร่อยมาก
เดินทางไปทานอาหารค่ำ เมนูอันดงจิมทัค
จากนั้นเดินทางกลับมายังที่พัก คืนนี้เรานอนที่เดิม
17 มกราคม
ทานเอาหารเช้าที่โรงแรม แปดโมงเช้าได้เวลานัด วันนี้เป็นการพาไปช้อปปิ้งกัน ไปกันเลย
ที่แรก ศูนย์โสมรัฐบาล ไปดูโสมต่างๆ ใครจะซื้อก็ซื้อ แต่เราไม่ได้ซื้อ
ที่ต่อมา ฮ๊อกเก็ตนามู สมุนไพรของเกาหลี รักษาตับ เลยได้มาสองกล่อง เจ็ดพันกว่าบาทแนะ เห็นว่าต้นไม้ชนิดนี้ 20 ปี ถึงออกผล
อาหารเที่ยง เมนูเมนูไก่มัคคาลบี้
ไปช้อปปิ้งต่อที่ย่านแฟชั่นสุดฮิปเมียงดอง
ตามด้วย Cosmetic Shop ที่นี่เลยได้ครีมหอยทากของ Dr MJ กะ ครีมน้ำแตก มา
ช้อปประเป๋าเบาแล้ว ก็ต่อด้วย พิพิธภัณฑ์สามมิติและพิพิธภัณฑ์น้ำแข็ง (เล็กกว่าที่เราไปเมื่อวาน)
เดินทางต่อหอคอย N Tower ภูเขานัมซาน Love Rock Cable แต่ไม่ได้ขึ้นตัวหอคอยเพราะอากาศด้านนอกมองวิวไม่ชัด เลยได้แต่ถ่ายรูปตรงที่เขาคล้องกุญแจกัน
ทานอาหารเย็นอันดองจิมทัค หรือไก้พะโล้
ชมโชว์ Fanta Stick Snow พระเอกหล่อ นางเอกน่ารัก เรื่องประมาณ ความรักคนกะผี ประมาณชั่วโมงครึ่ง
วันนี้ย้ายมาพักที่โซล ที่พักของเรา CO.OP City Hotel ห้องขนาดเล็กกว่าสองวันแรก แต่สวยใช้ได้
18 มกราคม
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมที่พัก มีอาหารน้อยมาก ห้องเล็กรีบกินรีบไป ให้คนอื่นมานั่งบ้าง ไข่ออมเลตมีให้ตักเป็นกาละมัง แต่ดูเละๆ อิ่มแล้วรีบขนข้าวของขึ้นรถพร้อมกลับ แวะดิวตี้ฟรี Korea Shopping Center
แวะเที่ยวหมู่บ้านพื้นเมืองพูซอฮันนก เป็นหมู่บ้านโบราณที่อนุรักษ์เอาไว้ และย่านสามฟ้า และสักการะพระ
ทานอาหารเที่ยง เมนูซังเกทังหรือไก่ตุ๋นโสม
ตามด้วยละลายเงินวอน แต่ไม่มีให้จ่ายแล้ว หมด ที่นี่ ใช้เงินไทยได้ แต่เรดแพงมาก จาก 0.031 เป็น 0.028
ได้เวลาไปสนามบินแล้ว มีแจกขนมเล็กน้อย พร้อมกับซื้อรูปภาพที่น้องเค้าถ่ายไว้ ตกรูปละ 150 บาท ถือว่าเป็นน้ำใจให้น้อง อันนี้ไม่บังคับซื้อ ใครชอบรูปไหนก็ซื้อไป
ออกเดินทางจากเกาหลีใต้ ด้วยเครื่องบิน Boeing 767-341(ER) เที่ยวบิน 8B 867 ที่นั่ง 26B ช่วงท้าย ที่นั่งแคบมากนั่งไม่สบายเลย ต้องขอย้ายไปนั่งด้านหลังแทน สังเกตุว่า เก้าอี้ไม่เหมือนกันกับตอนขามา ออกเดินทางจากสนามบินอินชอนเวลา 16.00 กลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 21.00 โดยสวัสดิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น