วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แม่ฮ่องสอน

เที่ยวแม่ฮ่องสอนกันดีกว่า

    มีโปรแกรมต้องเดินทางไปประชุมที่แม่ฮ่องสอน เลยถือโอกาสไปเที่ยวด้วยซะเลย แต่ใจจริงอยากบินตรงเข้าแม่ฮ่องสอน ด้วยนกแอร์เครื่อง ATR ลำเล็กๆ ซึ่งไม่เคยบินไปแม่ฮ่องสอนสักครั้ง แต่เคยบินด้วยเจ้านี่ไปอุดรมาแล้ว ส่วนมากถ้าจำเป็นต้องไปแม่ฮ่องสอนจะไปทางแม่สะเรียง แม้ว่ามันจะไกลกว่าอีกทางมากแต่โค้งไม่เยอะเท่าแต่เห็นว่าช่วงนี้ถนนก็ไม่ค่อยดีด้วยเลยตัดไป

   โปรแกรมนี้เลยจำต้องเดินทางกับที่ทำงาน ด้วยรถตู้ ไปทางแม่มาลัย แวะพักที่ปาย 1 คืน และเข้าแม่ฮ่องสอน แค่ 1862 โค้งเอง

วันที่ 1

    ล้อหมุนเวลา เวลา 9.00 น. วิ่งไปทางแม่มาลัย อำเภอแม่แตง แวะทานอาหารแถวแม่มาลัยเติมพลังซะก่อน ร้านนี้ต้มเลือดหมูอร่อยพอใช้ได้เลย พร้อมแล้วกับ 762 โค้ง แรกที่จะถึงปาย ขึ้นรถได้ก็หลับละ มาตื่นอีกทีอีก 20 กม. ถึงปาย เริ่มจะเวียนหัวละ ยังดีที่เอาอยู่ทนได้จนมาถึงสะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย





    สะพานประวัติศาสตร์ท่าปายนี้ แต่เดิมถูกสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 2485โดยกองทหารญี่ปุ่นใช้เป็นทางลำเลียงไปพม่า เป็นสะพานไม้ เมื่อหลังสงครามสิ้นสุดในปี 2489 ก็ได้เผาทำลายทิ้ง ทำให้ชาวบ้านสร้างสร้างสะพานไม้ขึ้นมาใหม่ แต่ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในปี 2516 ทำให้สะพานเสียหาย จึงได้ทำเรื่องขอสะพานเหล็ก นวรัฐ ของเชียงใหม่ซึ่งไม่ได้ใช้การแล้วนำมาสร้างทดแทน

   แวะทานกาแฟสักแก้ว จากนั้นนั่งรถไปต่อที่กองแลนหรือ Pai Canyon ทางขึ้นจากด้านล่างที่จอดรถขึ้นมาด้านบนชันพอควรแต่มีทางเดินขึ้นขั้นบันไดสะดวกสบาย





    กองแลน (Pai Canyon) เป็นพื้นดินที่ถูกกัดเซาะเป็นร่องลึกคล้ายหน้าผา คล้ายกับแพะเมืองผี (อันนี้ยังไม่เคยไป) สามารถเดินชมได้โดยรอบ แต่มีช่วงแคบๆ เดินไปแล้วเสียวมาก

    เดินเล่นจนหนำใจแล้วก็ไปต่อเข้าอำเภอปาย หาอาหารกลางวัน (บ่ายๆ) ทาน มาที่นี่เลยตรงสี่แยกหาไม่ยาก เมืองเล็กๆ แห่งนี้


   อิ่มหนำสำราญแล้วเดินทางต่อ ไปสักการะสิ่งศักดิ์ที่วัดน้ำฮู


    หลวงพ่ออุ่นเมือง  เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ปางมารวิชัย อายุเก่าแก่ประมาณร่วม 500 ปี ที่พระเศียรส่วนบนกลวง ภายในมีน้ำขังอยู่จะซึมออกมาตลอดเวลา



    ศาลาประดิษฐานรูปปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    จากนั้นเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนาน บ้านสันติชล ของฝากไม่ได้ซื้ออะไรเลย ดูแล้วไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไรสำหรับเรา ส่วนคนอื่นไม่รู้นะ เห็นชิงช้าหมุน น้องๆ ขึ้นไปเล่นกันคนละ 100 ดูไม่สูงแต่น้องๆ บอกว่ามันเสียวเหมือนกันตอนช่วงหมุนลงมา












   ได้เวลาพักผ่อนแล้ว กลับเข้ามาในเมือง เข้าที่พัก The Sylvana Pai  อยู่ใกล้กับแม่น้ำปายและตลาดคนเดินเลย สะดวกมาก แต่ช่วงที่มีตลาดกลางคืนรถจะเข้าออกไม่ได้แล้ว

   ที่พักสวยงามดีเดินออกไปหน่อยก็แม่น้ำปายมีสะพานไม้ข้ามไปอีกฝั่ง อีกด้านก็ติดกับถนนคนเดิน







       
     ได้เวลา Dinner กันแล้ว แต่ก่อนอื่นแวะสักการะที่วัดพระธาตุแม่เย็น  จากที่นี่สามารถชมวิวเมืองปายและชมพระอาทิตย์ตก





      ได้เวลาทานอาหารแล้วเดินทางไปต่อที่ร้านอาหารของ ปายลานนา รีสอร์ท อาหารอร่อยใช้ได้ วิวสวย มองเห็นตัวเมืองปาย




     ค่ำแล้วไปต่อถนนคนเดินกัน เดินชิมอาหารพื้นเมืองและสารพัดที่มีตั้งแต่หัวถนนยันสุดทางอิ่มเลย ไม่รู้จะซื้ออะไร เดินจนเบื่อแล้วก็กลับที่พัก พรุ่งนี้เดินทางไปแม่ฮ่องสอนต่อ








วันที่ 2

     ตื่นเช้า 7 โมงกว่า มาว่าจะตักบาตร แต่ไม่เห็นพระซะแล้วสงสัยมาสาย เดินชมเมืองตอนเช้าๆซะหน่อย หาโจ๊กอร่อยๆทาน แล้วค่อยกลับมาทานที่รีสอร์ทต่อ










    เกือบ 9 โมง ได้เวลาล้อหมุนแล้วออกเดินทางไปแม่ฮ่องสอนกัน ขึ้นรถหลับปั๊ปตามประสากลัวจะเมารถ ตื่นขึ้นมารถจอดพอดี ที่ดอยกิ่วลม ลงไปถ่ายรูป ถ่ายอะไรซะหน่อย มีเด็กๆชาวเขามาให้ถ่ายรูปพร้อมกับทิปให้น้องๆเค้าด้วยนะไม่ใช่ถ่ายฟรีๆ ระวังของกันนิดนึง






    เดินทางต่อ ขึ้นรถก็หลับต่อ ตื่นมาอีกทีก็มาที่ถ้ำลอดน้ำลอด ปางมะผ้า นึกว่าเราจะต้องเดินเข้าถ้ำที่ไหนได้มีทั้งล่องแพ แล้วขึ้นไปชมความงามภายในถ้ำ ชอบมากตอนล่องแพนี่ มีปลาเยอะมาก ถ้าให้อาหารมันก็จะว่ายตามมาตลอดเลย ช่วงปลายๆถ้าที่ไปโผล่อีกด้านนึง จะเหม็นขี้ค้างคาว แต่นับว่าที่นี่สวยมาก Unseen สำหรับเราเลย













  
ออกเดินทางต่อเข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนซะที รอดพ้นมาได้แล้ว ถ้าให้มาอีกขอมาเครื่องบินแทนละกัน มาแวะทานอาหารที่ร้านบ้านทรงไทย เคยมาแล้วที่นี่ขนมจีนน้ำยา แกงไตปลา และอื่นๆ อร่อยมาก




    ยังมีต่ออีกไปเที่ยวกันต่อ เดินทางต่อไปที่ท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ นั่งเรือไปประมาณ 45 นาที ไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว อุดหนุนสินค้าซะหน่อย เลยซื้อผ้าทอที่เพิ่มทำเสร็จมา 1 ผืน









    ได้เวลากลับแล้ว แต่ยังมีต่อ เราต้องไม่ลืมที่จะไปสักการะที่วัดพระธาตุดอยกองมู วัดคู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน ชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน จุดเครื่องบินขึ้นลง และพระอาทิตย์ตกดิน






  ได้เวลาเข้าที่พักแล้ว ที่โรงแรม The Imperial Tara Mae Hong Son ขอพักผ่อนสักงีบนะ แล้วค่อยไปทาน Dinner กัน






   ได้เวลาเที่ยวต่อแล้ว ไปต่อที่ถนนคนเดิน และสักการะที่วัดจองกลาง จากนั้นไปทานข้าวที่โครงการ ได้เวลาพอสมควรกลับที่พัก










วันที่ 3

     ตื่นเช้ามาอากาศเย็นสบาย ทานอาหารที่โรงแรมนิดหน่อยแล้วค่อยไปทานต่อที่โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน วิวที่นี่สวยมาก







    ได้เวลาขึ้นปางอุ๋งแล้ว ใช้เวลาพอสมควร และต้องเสียเวลากับบางคนที่ลืมเวลานัด แต่ไม่เป็นไร ไม่ได้เห็นหมอกบนปางอุ๋ง แต่มาแล้วก็หายเมาหัวละ ที่นี่เป็นอ่างเก็บน้ำของชลประทานเหมือนกัน แต่มีที่พักของป่าไม้เขา มีหงส์ขาว หงส์ดำ ด้วย









  แวะลงมาทานกาแฟ ร้านลุงปาละ ที่นี่แกทำเองบดเองครั่วเอง อร่อย ซึ่งเราไม่ค่อยทานกาแฟ แต่ลองชิมสักหน่อย แล้วเลยซื้อมา 1 ถุง






    ลงมาเที่ยวต่อที่พระตำหนักปางตอง ที่นี่ ไม่ได้มานานแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2  เคยมาสมัยรับเสด็จเมือปี 2536-2537 นี่ละ นานมาก เปลี่ยนไปเยอะจนจำไม่ได้เลย จากนั้นลงมาให้นมแกะ ไปถ่ายรูปกะแกะ แน๊ แกะหนีซะงั้น คงนึกว่าช้างที่ไหนมากลัวโดนเหยียบ 555








     ออกเดินทางไปทานอาหารเที่ยงกันต่อที่ ร้านลีไวน์รักไทย อาหารจีนยูนาน บ้านรักไทย  อร่อยมากกกก ชอบจริงๆ แวะซื้อของฝากนิดหน่อย และคณะที่ตามมาน้องๆ ก็กลับเชียงใหม่กันไป ปล่อยให้ พวกเราอยู่ต่อ ประชุมกันพรุ่งนี้






     ขากลับลงมาแวะซื้้อน้ำมันงาสักขวด เอาไปทำอะไรดี ป่านนี้ยังไม่ได้เปิดดูเลย และกลับเข้าที่พัก พักผ่อน

    ช่วงเย็นไป Dinner ที่สวนอาหารสายน้ำปาย มองหาน้ำปายไม่เห็นมี มันตรงไหนนิ สงสัยอยู่ใต้ดิน แต่ไม่ใช่หรอก อยู่อีกฝั่งของภูเขา เสร็จก็ไปถนนคนเดินอีกครั้งไปไหว้พระ และเวียนเทียนที่วัดจองกลางอีกสักครั้ง ก่อนกลับที่พัก

วันที่ 4

     ประชุมกัน และมีงานเลี้ยงตอนเย็น แอบกลับก่อนเพราะอากาศเย็นไข้จะขึ้น

วันที่ 5

     กลับเชียงใหม่แล้ว วันนี้หมอกลงจัด เครื่องดีเลย์ไป ชั่วโมงกว่า ไปนั่งรอที่สนามบินแม่ฮ่องสอน เดินทางไปกับสายการบินกานแอร์ ไม่เคยนั่งเลย เด็กๆจองให้ เพราะนกแอร์เต็ม






    ได้ยินประกาศมาแล้วเครื่องที่จะนำเราไปสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ลำเล็กขนาด 12 ที่นั่ง ใบพัดเดียว มีนักบินสองคน เดินออกไปขึ้น แอร์แจกอาหารก่อนบึ้นเครื่อง แต่แอร์ไม่ไปด้วยนะ ไปก็เดินไม่ได้ เพราะขึ้นไปแล้ว เหมือนรถตู้ นั่งเบียดกันดี แออัดนิดนึง ที่นั่ง 2+1 สี่ แถว อาหารเหรอไม่กินละ ถ่ายรูปดีกว่า คนตัวใหญ่ลำบากนิดหน่อย มองเห็นนักบินกับอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ด้านหน้า




     ออกเดินทางกัน  ขึ้นได้นิ่มนวลมาก เรานั่งฝั่งขวาของเครื่อง เลยไม่ได้ถ่ายวัดพระธาตุดอยกองมู จากบนเครื่อง สวยจริงๆ บินไม่สูง ดูวิวไปเรื่อยๆ บินประมาณ 35 นาที ก็ถึงสนามบินเชียงใหม่ มีกระแสลมเล็กน้อย เหมือนนั่งกระเช้าเลยแฮะ









    ขอขอบคุณสายการบิน Kan Air ที่นำ มาถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ ถ้ามีโอกาสจะใช้บริการอีก แต่นานๆ หน่อยนะ เสียวอยู่

   Bye Bye ....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น