วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

มาเลเซีย - เก็นติ้ง - มะละกา

มาเลเซีย - เก็นติ้ง - มะละกา
13-16 เมษายน 2555

  สงกรานต์ปีนี้ ไม่ได้อยู่เล่นน้ำที่เชียงใหม่ และกรุงเทพ ขอไปเที่ยวที่มาเลเซียแทนละกัน ก็มีเสียงจากบางคนว่า "ไปทำไมไม่เห็นจะมีอะไรเลย" ก็แหมเราไม่เคยไปเหมือนคนอื่นนี่นา แล้วก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองนะสิ สำหรับคนที่เคยไปแล้ว กลับมาก็อาจจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่ในสิ่งที่ไม่มีอะไรสำหรับเรา มันก็มีประสบการณ์ให้เก็บเกี่ยวอยู่ด้วย ก็ช่างมันเถอะแล้วแต่ใครจะคิด ไม่ผิด มาเข้าเรื่องกันต่อ ครั้งนี้ก็ทำการบ้านทำแผนการเดินทางเอง อย่างคร่าว  เที่ยวเองเสร็จสรรพ มีแผนที่ พร้อมโปรแกรม Sygic ซะอย่าง เปิด Data Roaming ลุยได้เลย  ทริปไปกับเพื่อนสองคน คุณนายอ้อกับคุณนายเป็ด พร้อมแล้วลุยเลย

13 เมษายน 2555
   ออกเดินทางจากสนามบินเชียงใหม่ TG 111 เวลา 14:55 มาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 16:20 น. ระหว่างรอคุณนายทั้งสอง เลยเดินไปที่เคาท์เตอร์ของ Ais เพื่อจะทำ Data Roaming 3 วัน 950 บาท ไม่รวม Vat แต่ไปถึงมาเลเซียก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เลยขอให้ทาง Ais เริ่มในวันที่ 14 ให้ เพราะถ้าเริ่มวันที่ 13 ตอนนี้ จะไปหมดตอนเที่ยงคืน ไม่คุ้ม
   คุณนายทั้งสองมาพร้อมแล้ว ไปที่เคาท์เตอร์ Check in ของ AirAsia คนเยอะมาก เลยถาม เจ้าหน้าที่ว่าถ้าเรา Print Broading Pass มาแล้ว ต้องเข้าเช็คอินอีกหรือป่่าว เจ้าหน้าที่บอกว่าต้องเช็ค เผื่อว่ามีอะไรติดขัดจะได้แก้ไขให้ ถามต้องมีกระเป๋าโหลดหรือป่าว ของพวกเราไม่โหลด (ประหยัด) เขาเลยพาไปที่เคาท์เตอร์ที่เพิ่งจะปิดไปแล้วช่วยจัดการให้เรา ดีจังไม่ต้องไปต่อแถว ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้นมาก
   Check in เรียบร้อยแล้ว เข้าด่าน ตม.เลยดีกว่า กลัวคนเยอะ ใครที่ยังไม่เข้าก็ตามใจส่วนเราจะเข้าไปช้อปปิ้งด้านใน ด้านนอกน่ะเดินจนพรุนหมดแล้ว ผ่านด่านตมทางด้านขวามือเป็นช่องของคนไทย คนไม่เยอะ เห็นเครื่องอัตโนมัติและเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ เลยเข้าไปช่องนี้ ง่ายมาก เอาหน้า Passport สอดเข้าไป Scan เรียบร้อย เดินผ่านเข้าไปเป็นช่องสำหรับถ่ายรูป ต้องมองที่กล้องนะ ไอ้เราสูงไปเข้าเลยบอกให้ย่อหน่อย เรียบร้อยอีกจุด ผ่านมาที่เข้าหน้าที่ปั้มดวงตรา อ้าวลืมเขียนใบผ่านเข้าออกประเทศไทยเสียนี่ เลยต้องไปยืนเขียนข้างๆ เสร็จแล้วยื่นให้เจ้าหน้าที่ปั้มดวงตรา ผ่าน เข้ามาที่ด่านตรวจกระเป๋าคนไม่มาก เข้ามาแล้วซ้ายหรือขวาดี คราวที่แล้วไปทางขวา คราวนี้เดินไปทางซ้ายมั่ง เอาละเริ่มช๊อปปิ้งของในนี้ซะเลย รอเวลาขึ้นเครื่อง Gate D1 เวลา 22.20 น.



   เรื่องเดินทางดึกวีนไปนิดหน่อยเรื่องออกเที่ยวดึกไปถึงเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ตอนแรกคุณนายเป็ดจะให้นอนที่สนามบิน แต่ยื่นคำขาดถ้าให้นอนสนามบินจะไม่ไป เลยต้องยอมไปพักที่ KL ได้ไงจะให้ไปนอนที่สนามบิน เรื่องของเรื่องเธอหาราคาเที่ยวบินได้ถูกสุด พร้อมกับส่งรูปคนนอนที่สนามบินมาให้ดูด้วย วีนๆๆๆๆๆๆๆๆ ทริปหน้าต้องออกเดินทางกันเช้าๆนะ หกโมงเช้ากันไปเลย
    ได้เวลาขึ้นเครื่องละไปที่ Gate D1 เลย รอด้านนอกสักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาบอกว่าเปลี่ยนเป็น Gate D8A แม่เจ้า อยู่คนละฝั่งเลย รีบจ้ำอ้าวกันไป พอไปถึงพระเจ้าช่วย เครื่องดีเลย์อีก 1 ชม. เพื่อไม่ให้เสียเวลานั่งทานอาหารที่เตรียมมาของ S&P ซะเลย ทริป



   ได้เวลา 23.20 น. ออกเดินทางด้วยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน AK837 Suvamabhumi International Airport ถึง Kuala Lumpur (LCC Terminal) เวลา 00.25 น. (เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชม.) เดินลงจากเครื่องเข้าอาคาร LCCT ผ่าน ต.ม.มาเลเซีย (Foreign Passport) ไม่ต้องเขียนอะไรเลย Scan Passport ถามอะไรไม่รู้หรือว่าบ่นงึมงัมอะไรฟังไม่ออก เลยได้แต่ยิ้มไป ผ่านเรียบร้อย มาที่เค้าท์เตอร์ขายตั๋วรถไป KL Sentral  รถ Skybus (ของ Air Asia) ราคา 9 RM ใช้เวลา 1 ชม. ไปลงที่ KL Sentral  จากนั้นนั่งรถ Taxi โดยซื้อตั้๋วด้านในอาคารก่อนขึ้นรถราคา 20 RM เข้าที่พัก Hotel Ambassador Bukit Bintang 02.00 น. Taxi หาไม่เจอ เราต้องบอกว่าอยู่ใกล้กับ Bukit  Bintang Monorail Station



    มาถึงแล้ว  Hotel Ambassador Bukit Bintang เราจองผ่าน Agoda พนักงานที่นี่เป็นกันเอง แต่ว่าเราต้องมีมัดจำค่าห้องด้วย 50 RM ได้คืนวันกลับ ฝั่งตรงข้ามมี 7-Eleven อยู่ในย่าน Bukit เลย 
    บรรยากาศของโรงแรม เราได้ห้องแบบที่ไม่มีหน้าต่างเพราะอยู่ตรงกลางของอาคาร ประตูเข้าห้องเป็นการ์ดแตะที่ประตู เข้าไปแล้วมีกลิ่นบุหรี่ ปลั๊กไฟเป็นแบบสามขา เอาปลั๊กกลมเสียบไม่ได้ สามารถของปลั๊กพ่วงได้ที่พนักงาน มีตู้เย็นแต่ไม่มีน้ำสักขวด มีกาต้มน้ำ ไม่มีไดร์เป่าผม มีทีวีที่ห้องเป็นแบบเก่าส่วนของเพื่อนเป็นแบบ LCD แอร์เย็นอย่างช้าๆ ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น แชมพู สบู่พร้อมผ้าเช็ดตัว ส่วนที่แปลกคือที่ล้างก้นเป็นแบบในรูปไม่มีที่กดแบบบ้านเรา ตามห้างก็ไม่ใช่แบบในรูปนะ เหมือนกับบ้านเราแต่หัวฉีดหาย เอหรือว่าต้องเอาไปเองละนี่ หรือว่ามันคือโบท๊อกซ์กัน คริคริ












14 เมษายน 2555 (Genting Hidhlands)
   ตอนแรกกะว่าจะตื่นกัน 6 โมงเช้า แต่เอาเข้าจริงตื่นกัน 7 โมง ไปทานอาหารเช้า (ที่พักรวมอาหารเช้า) ลงลิฟท์มาที่ชั้น 1  หน้าตาอาหารเช้าตามรูป สั่งได้ 1 อย่าง พร้อมชาหรือกาแฟ และมีสลัดบาร์นิดหน่อย แต่ไม่มีน้ำเปล่าให้นะต้องสั่งเอาที่เห็นในรูปว่ามีที่กดน้ำน่ะ ไม่มีเลยกดเจออากาศ สามารถมองเห็นวิวถนนด้านนอก และราง Monorail ที่เราจะไปขึ้นวันนี้












   กว่าจะได้ออกก็ปาไป 9 โมงเช้าแล้ว วันนี้โปรแกรมจะไปเที่ยวเก็นติ้ง ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วเดินจากโรงแรมทางด้านซ้ายมือจะเห็นสถานี Monorail เดินข้ามถนนตรงไป จะเห็นสถานี Bukit Bintang Monorail Station ซื้อตั๋วที่เคาท์เตอร์ราคา RM2.1 ไปลงที่ KL Sentral  ได้เหรียญพลาสติกมา ผ่านเข้าเครื่องตรวจแล้วเดินขึ้นบันได ข้ามสะพานบนสถานีไปอีกฝั่งที่จะไป KL Sentral รถมาแล้ว





 
  





   ใช้เวลาประมาณ 20 นาที มาถึง สถานี KL Sentral Monorail เวลา 10.00 น. เดินออกจากสถานีมาทางด้านขวามือ ข้ามถนน จะเจอทางเดินที่มีหลังคา ไปถึง KL Sentral เข้าไปทางที่จอดรถ Bus ซึ่ง KL Sentral เป็นศูนย์กลางของการเดินทางที่นี่ มีทั้งรถบัสที่จะไป LCCT , Genting Highlands ที่อยู่ชั้นล่างสุดตอนเดินจากสถานี Monorail เข้ามา , LRT , KTM Komuter , KILA Express ส่วนที่เราจะไป Genting ต้องขึ้นรถบัสไปราคาต่อเที่ยว คือไป Genting Highlands รวม Sky Way ราคา RM 10.3 (ค่ารถ 4.3 กระเช้า 6) ได้เที่ยวไปเวลา 12.30 น. ถ้าจะเหมาไป Taxi ถึงด้านบนเลย ราคาต่อเที่ยว 100 RM มีแวะชมโน้นนี่ด้วย









 ต้องรอเวลาอีกตั้งสองชั่วโมง เดินเล่นข้างใน KL Sentral ดีกว่า ขึ้นบันไปเลื่อนไปด้านบน ดูบรรยากาศด้านในซะหน่อย ทางฝั่งด้านขวามือเป็นที่ขายตั๋วและทางเข้า KILA Express ถัดไป เป็น  KTM Komuter ส่วนทางด้านซ้ายมือเป็น LRT ด้านในมีร้านขายของพอสมควร เดินวนไปทางซ้ายมือหรือขวามือ หรือจะขึ้นไปชั้นบน ก็มีร้านขายของ ด้านบนสุดทางซ้ายมือเป็น Food Court แวะไปนั่งที่ Starbucks ซะหน่อย








   ร้านอาหารหรือ Food Court  จะอยู่ด้านบนขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายมือ มีห้องสำหรับทานไปสูบบุหรี่ไปด้วย อาหารมื้อเที่ยงวันนี้คือ Chicken Fried rice ราคา 5.5 RM น้้ำเปล่าอีกขวดราคา 1.8 RM



    ได้เวลาไปขึ้นรถแล้ว นั่งตามที่นั่ง ใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ถึง Genting Highlands  ขอบอกว่ามันขับเร็วมาก ยิ่งตอนขึ้นลงเขา สงสัยรีบทำเวลา เล่นเอปวดขาเลยทีเดียว







   มาถึงแล้ว 13.30 น. เพื่อความสะดวกซื้อตั๋วรถ Bus ขากลับเลย ส่วน Sky Way ไปซื้อด้านบน ค่ารถ 4.3 RM เดินไปขึ้น Sky Way ด้านบน คนรอคิวเยอะมาก ใช้เวลา 30 นาที ในการต่อคิว





   ถึงคิวเราแล้ว ใช้เวลาบน Sky Way ประมาณ 15 นาที ก็ถึงด้านบน มีหมอกลงเล็กน้อย มีเสียงจากคุณนายเป็ด เล็กน้อย เพราะเรานั่งด้านหลังจะเห็นกระเช้ากำลังขึ้นจากด้านล่าง เสียวดีแฮะ










   ถึงแล้ว เนื่องจากว่าไม่ได้ค้างคืนที่นี่ เพื่อความรวดเร็ว ซื้อตัว Sky Way ขาลงเลย ราคา 6 RM พร้อมแล้วลุยกันต่อ เดินวนไปวนมา งงดีเหมือนกัน ไม่รู้ทางไหนไปไหน ก็ไปมันทุกทางแหละ แวะชิม ทาร์ตไข่ ราคา 4.5 RM / 2 ชิ้น ถ่ายรูปกันสนุกสนาน














   ได้เวลากลับละ ลง Sky Way มาด้านล่าง นั่งมันที่เดิมแหละจะได้เห็นตอนลง แหมตอนลงจากสถานีหลับตากันหมดเลย ไม่เป็นไรเราถ่าย VDO เอาไว้แล้ว ตอนลงกระเช้ามีการเหยียบเบรคกันสุดริด มาถึงด้านล่าง เห็นคนยังต่อแถวขึ้นมามากกว่าเดิมอีก ลงมาผ่านจุดจำหน่ายสินค้า แล้วก็ลงลิฟท์ไปด้านล่าง เพื่อรอเวลาขึ้น Bus กลับ KL Sentral  ที่นี่คนจะแย่งขึ้นลงเหมือนกับกลัวไม่ได้ไป คิดแล้วเหมือนตอนจะลงจากเครื่องบินเชียว ไม่รู้จะรีบไปไหน ประตูเครื่องก็ยังไม่เปิดเลย



   หลับมาตลอดทาง ถึง KL Sentral แล้วเราจะไปเที่ยวต่อที่ Petronas Twin Tower จากสถานี Bus ชั้นล่าง ขึ้นบันไปเลื่อนมาด้านบน เดินทางทางซ้ายมือ ซื้อตั๋วผ่านตู้อัตโนมัติเลย ใช้ง่ายมากเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ กดที่หน้าจอสถานีปลายทางที่ต้องการ จำนวนตั๋วกี่ท่าน ใส่เงิน เหรียญเดินทางออกมา และเงินทอน เรียบร้อย เราใช้บริการ Rapid KL ขึ้น LRT ไปลงที่สถานี KLCC ราคา 1RM 





   ถึงสถานี KLCC เดินเข้ามาก็จะเจอห้าง Suria เลย เห็น Rotiboy ในเมืองไทยไม่มีแล้ว ต้องขอทานสักหน่อย จากนั้นไปเดินเล่นในห้างทานอาหารเย็นกันที่ชั้น 2 เป็น Food Court ใหญ่มาก เจอ Chicken Fried Rice อีกแล้ว คืออยากรู้ว่าที่ไหนอร่อยบ้าง สั่งมาทาน ราคา 6.9RM น้ำอีก 1.8RM





   อิ่มแล้ว ก็ Servey กันต่อ ออกมาด้านนอก ดูด้านหน้า แล้วก็มองกลับไปด้านหลังจะเจอจุดหมายของเราตึก Pitronas Twin Tower นั่นเอง เดินออกมาทางด้านหน้า ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย







    ได้เวลากลับที่พักแล้ว ดูจากโปรแกรมนำทางเห็นว่าโรงแรมอยู่ใกล้ เลยใช้วิธีเดินกลับ ออกทางหน้าโรงแรมไปทางซ้ายมือ แล้วก็เดินไปตามแผนที่ จะเจอ Sky Walk ติดแอร์ซะด้วย เดินไปจนเจอห้าง Pavillian เลย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ออกทางด้านหน้า Pavillian เดินไปตามถนนเลี้ยวซ้ายก็เจอโรงแรมแล้ว ก่อนกลับแวะซื้อชานมไข่มุกซะหน่อย แก้วกลาง 5.9 RM




  ฝั่งตรงข้ามโรงแรมมีร้าน 7-ELEVEN อยู่   ลองเทส 3G ดู ความเร็วตามในรูป แต่ที่นี่มี 4G แล้ว ในโรงแรมมี Wifi ใช้ฟรี Password มีแปะไว้ที่ประตูในห้อง



15 เมษายน 2555
   วันนี้เรามีโปรแกรมไปเที่ยว Melaka กัน ทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว 8.00 น.ออกเดินทางไปที่สถานี KL Sentral โดยใช้ Monorail เหมือนเดิม ซื้อตั๋วรถ KTM Komuter เพื่อไปลงสถานี Bandar Tasik Selatan ราคา 1 RM เพื่อไปต่อรถ Bus ไป Melaka ที่ Terminal Bersepadu Selatan 



   มาถึงสถานี Bandar Tasik Selatan แล้วเดินข้ามไปที่  Terminal Bersepadu Selatan  (TBS)  ภายในสถานี ใหญ่มากดูเหมือนสนามบิน หาซื้อตั๋วรถ Bus ไปราคา 9 RM ต่อเที่ยว Fix ทีนั่งด้วย แจ้งชื่อผู้โดยสารด้วย เลยส่งพาสปอร์ตให้ไป ไม่ทันดูว่าที่ซื้อบริษัทอะไร เห็นเขาแนะนำกันว่าควรไป KKKL เห็นรถแล้วใหม่ ส่วนที่เราไปเก่าหน่อยแต่ก็นั่งสบาย รถออกเวลา 9.59 น. Gate 3 









    ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึง Melaka Sentral เพื่อความสะดวกอีกนั่นแหละ เลยไปหาซื้อตั๋วกลับ แต่ราคาทำไมแพงกว่าขามาทุกบริษัทเลยราคาที่ได้ 12.5 RM แต่คราวนี้ได้แบบ 3 แถวที่นั่งใหม่มาก และไม่ Fix ที่นั่ง ใครขึ้นก่อนจองที่นั่งได้เลย
   ได้ตั๋วกลับละ พร้อมแล้วที่จะลุย Melaka พวกเราเดินไปขึ้นที่ Domestic Bus ยืนเก้ออยู่นานจะขึ้นสายไหนดี อ่านไม่ออก ดูตรงหน้า สาย 200 คนเยอะมากกะจะขึ้นแต่ๆไม่ทันละ คนแน่นมาก ไว้รอคันหลัง ดูสายอื่นไป Ocean ก็ไม่ใช่ สรุปเลยต้องใช้บริการ Taxi ในราคา 5 RM ไปลงที่ Dutch Square




    พวกเรามาลงกันที่ Dutch Square กล้องพร้อม แบบพร้อม พร๊อบพร้อม แต่แดดแรงมาก ทาซันบล๊อกซะก่อน ที่นี่มีทัวร์มาลงกันเยอะมาก มุมไหนที่เขาถ่ายอยู่เราต้องเบี่ยงมุมกันหน่อย มีสามล้อถีบนั่งชมรอบเมืองด้วย เปิดเพลงเสียงดัง แต่ไม่ได้ขึ้น กลัวมันถีบไม่ไป




















    เริ่มหิวแล้ว เห็นฝั่งตรงข้ามกับเรือสำเภามีศูนย์อาหารอยู่ เลยเข้าไป เดินดูอยู่หลายร้าน แต่ดูแล้วไม่ถูกปากไม่อยากทานเท่าไหร่ จนไปเจอร้านที่เป็นอาหารตามสั่งเลยสั่งมาสองจานแบ่งกันทาน เพราะเราไม่อยากเท่าไหร่ ที่นี่บางคนก็ใช้มือเปิปกันเลย มีอ่างไว้ล้างมือให้ ถ้าจะเข้าห้องน้ำต้องถอดรองเท้าล้างเท้ากันก่อนเข้า


    ไปต่อกันอีก ไปเจอ Melaka Tower ตอนแรกไม่รู้ว่าอะไรเห็นคนนั่งอยู่ พอนึกขึ้นได้ มองไปด้านบนอ่อมันเป็นหอคอยหมุนได้นี่เอง ราคาคนละ 20 RM  ทางเข้ามีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยเหมือนสวนสนุกทั่วไปแต่เสียเงิน พวกเราไม่ถ่ายไม่เอา มันก็ไม่ยอมต้องถ่ายบอกว่าฟรี ใช่ตอนถ่ายฟรี แต่รูปออกมาเสียตัง ยังไงมันก็ต้องถ่าย ไม่งั้นไม่ให้ผ่าน ก็เลยตามเลยละกัน อยากถ่ายก็ถ่ายไป เสร็จแล้วก็เข้าไปนั่งด้านใน มีแอร์ด้วยเย็นดี ได้เวลาขึ้นไปชมด้านบนแล้ว ค่อยหมุนรอบตัวแล้วขึ้นไปด้านบน หอคอยนี้หมุนได้รอบทิศเลย












   ชมความงามบนหอคอย ได้สักพักก็ลงมา ผ่านออกไปเจอรูปที่ถ่ายไว้ เอามาให้พวกเรา แต่ไม่เอาเพราะบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่ แล้วราคาก็แพงเกิน อีกอย่างเป็นการ Photoshop ฉากหลังให้
  เดินเที่ยวกันต่อไปทางด้านห้างข้ามถนนไปรับแอร์เย็นซะหน่อย เดินชมของ สักพักก็ได้เวลากลับ โดยมาขึ้นรถฝั่งเดียวกับหอคอย รถบัสก็พาชมเมืองซะรอบ เกือบไปไม่ทันรถกลับ KL อันที่จริงถ้านั่งอีกฝั่ง ซึ่งต้องเข้าห้างฝั่งตรงข้ามหอคอยแล้วออกไปอีกถนน (one way) จะรอรถขากลับเลย แต่มาทางเราเป็นการชมเมืองก่อน เพราะรถวิ่งเป็นวงกลม แต่นั่นแหละคนเยอะมากตรงจุดนั้น ดีที่เรานั่งรถเล่นกันเลยไม่ต้องมาเบียดเสียดัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ขึ้นไม่ได้ ราคารถ 1 RM











   มาถึง Melaka Sentral ก่อนรถออกสิบนาที ขึ้นรถแล้วแม่เจ้ารถเก่ามาก เบาะก็เก่า ม่านก็เก่า คือเก่าหมด วิ่งทีเสียงดัง ขึ้นไปจับจองที่นั่งแบบเดี่ยว คราวนี้แบบว่า มีเสียงเพลงจากด้านหลังมากล่อมด้วย จนจะร้องได้อยู่แล้ว เสียงมาจากคนด้านหลังใส่หูฟังแล้วร้องเพลงตาม



  กลับมาถึง Terminal Bersepadu Selatan คราวนี้เราจะขึ้น Rapid KL ไม่ขึ้น  KTM Komuter แล้ว เดินข้ามไปอีกฝั่งด้านริมสุดเลยซื้อตั๋วจากเครื่องอัตโนมัติ ไปลงที่สถานี Hang Tuah  ราคา 1.7 RM ไปลงที่สถานี Hang Tuan แล้วซื้อตั๋ว Monorail ไปลงที่ Bukit Bintang อีก 1.2 RM  แนะนำว่าเราสามารถซื้อตั๋วจาก TSB ไปลง Bukit Bintang ได้เลยไม่ต้องซื้อที่ Hangn Tuah อีกที เพราะเวลาลงเราสามารถเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปในส่วนของสถานี Monorail ได้เลย






   มาลงที่ นี Bukit Bintang Monorail Station เอาของไปเก็บที่พักของเราก่อนแล้วค่อยเดินเล่นหาอาหารเย็นทานกันใน Pavillian







   ลงมาทานอาหารที่ Food Court มีอาหารให้เลือกมากมาย สังเกตุว่าใน Food Court ในมาเล ไม่ต้องแลกคูปองให้เสียเวลา แถมมีน้ำขายตามร้านอาหารด้วยเลย 







   แวะทานขนมร้านอร่อย J.CO Donuts & Coffee



    เดินออกมาซื้อชานมไข่มุกเจ้าเดิม


   เดินเล่นรอบๆ Bukit เดินดูย่านอาหาร ดูอย่างเดียวจนเหนื่อยหมดแรง  กลับที่พักดีกว่า

16 เมษายน 2555
 
   วันนี้ขอตื่นสายกันหน่อย เพราะเมื่อคืนกลับดึก เช้าทานอาหารที่เโรงแรมเช่นเคย ทำการเช็คเอ้าท์แล้วฝากกระเป๋าไว้ วันนี้เราจะไป Putrajaya
   เช่นเคยไปเริ่มต้นที่ KL Sentral วันนี้เราจะไปโดย KILA Express ไปลงที่สถานี  Putrajaya & Cyberjaya ราคา 9.5 RM มาทุกครึ่งชั่วโมง เราสามารถใช้บริการไปที่สนามบินได้เลยปลายทางที่ LCCT มีทั้งแบบพิเศษคือไปจอดที่สนามบินเลย และแบบที่เราไป จอดที่สถานี TSB และ Putrajaya







   มาถึงสถานี  Putrajaya & Cyberjaya เดินมาต่อรถ Bus เข้าไปในเมือง  Putrajaya ราคา 0.5 RM รถที่นี่วิ่งวนรอบเมืองมีหลายสายให้เลือก จะไปไหนถามคนขับเลย






    เดินเที่ยวชมในเมือง  Putrajaya วันนี้แดดแรงมาก ร้อนด้วย โล่งจริงไม่มีคนเดินเลย มีแต่เราสามคนเท่านั้น


























   เริ่มหิวละ หาอะไรกินด้านล่างดีกว่า เจอร้านอร่อยละ ขอจัดเต็มซะหน่อย ด้านล่างนี่คนเยอะ แต่แอร์ไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ มีสินค้าที่ระลึกขายด้วย






   เที่ยวชมเพลินละได้เวลากลับ ไปนั่งรถบัส สายไหนก็ได้ที่ไปยัง สถานี Putrajaya รถบัสพาเรา นั่งชมรอบเมือง ราคา 0.5 RM จนถึงสถานี Putrajaya

















   นั่ง KILA Express ไปลงที่ Bandar Tasik Selatan (TBS) ราคา 5.3 RM ไปต่อ Rapid KL คราวนี้ เรากดไปลงที่ Bukit Bintang Monorail Station เลย 2.9 RM สะดวกรวดเร็ว รู้สึกว่ารวมราคาแล้วจะถูกกว่าไปเริ่มที่ KL Sentral ด้วยนะ ลองมองดูด้านคนขับ เป็นสุภาพสตรี
  ถ้าจากที่พัก Bukit Bintang Monorail - KL Sentral - Putrajaya รวมราคา 10.7 RM
  จาก Putrajaya -  Bandar Tasik Selatan -  Bukit Bintang Monorail รวมราคา 8.2 RM












    ก่อนไปเอากระเป๋าที่โรงแรม ไปเดินเที่ยว ซื้อขนมกันต่อในห้าง Pavillian












   ได้เวลากลับละ ไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม เวลา 17.30 ออกเดินทางไป KL Sentral ขึ้นรถ Bus 18.00 คราวนี้เราไป Aero Bus ราคา 8 RM ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ถึงสนามบิน LCCT  
   เดินไป Checkin ตามที่ประกาศบนบอร์ด และดู Gate ออก






ทานอาหารที่ร้าน Old Town ภายในสนามบิน  เดินช๊อปปิ้งภายในสนามบินก่อนที่จะเข้า Gate มองเห็นร้าน Disel ลดราคา พุ่งเข้าใส่ทันที




เข้าไปช๊อปด้านในต่อ ผ่าน ตม อย่างรวดเร็วมาก ภายใน Gate ก็มี  Duty Free มีร้านขายของไม่เยอะเท่าไหร่ ตรงกลางทีที่ชาร์จแบต และ Wifi ใช้ฟรี ไม่ต้องขอ password ให้ยุ่งยาก รอเรียกขึ้นเครื่อง







เดินทางกลับด้วยสายการบิน Air Asia เที่ยวบิน FD3576 จาก Kuala Lumpur (LCC Terminal) เวลา 22.20 น. ถึง Suvamabhumi International Airport เวลา 23.30 น. โดยสวัสดิภาพ

ความเห็นสำหรับทริปนี้


 - ที่นี่คนสูบบุหรี่เยอะมาก ทั้งชายและหญิง แบบว่าสูบมันทุกที่ ท่ารถ สถานี สูบหมด ในห้องพักโรงแรมก็สูบ เพราะไปถึงได้กลิ่นอยู่เลย ขนาดใน Food court บางที่ เช่น KL Sentral ยังจัดห้องสูบเฉาพะไว้เลย ใครอยากสูบไป กินอาหารไป ก็เข้าไปได้เลย
 - ห้องน้ำสะอาดดี  ติดตรงที่ ฉีดล้างนี่สิ ไม่มีหัวให้ หรือต้องเอามาเองหว่า เข้าไปที่ไหนก็ไม่มี ดีที่ว่า ยังมีให้ใช้ ไม่เหมือนบางที่ที่ไม่มีเลย
 - การเดินทาง สะดวก รวดเร็วมาก สำหรับ การใช้บริการขนส่งต่างๆ ดูแผนที่ลุยไปได้เลย
 - การเข้า ตม. ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเขียนเอกสาร แค่ยื่น Passport ปั๊มตรา เป็นอันจบ
 - พนักงานของโรงแรมเป็นกันเองดีมาก เราถามอะไรไป บางอย่างเขาไม่รู้ ก็ Search หาทาง Internet ให้ทันที



ค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
1. ค่าเครื่องบินไปกลับ AirAsia 4,735 บาท (ไม่รวมจากเชียงใหม่มาสุวรรณภูมิ)
2. ค่าที่พักรวมอาหารเช้าต่อคน   4,156 บาท (คืนแรกหารสามเนื่องจากคุณนายเป็ดต้องรับผิดชอบที่
จองเที่ยวดึกแล้วจะไปนอนที่สนามบิน คืนที่สองสามเราจ่ายเต็มเพราะนอนคนเดียว)
3. ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าอื่น 4,649 บาท
    รวมทริปนี้  13,540

รายการนี้ซื้อของฝากน้อยมาก เพราะไม่รู้จะซื้้ออะไร แล้วทำหายอีก ดีที่ยังเหลือบางส่วนในกระเป๋า เป็น กกน ของ ดีเซล

จบสำหรับทริปนี้  พบกับทริปหน้า เชียงใหม่-มาเก๊า-ฮ่องกง

Bye